ชุดปฐมพยาบาลภาคสนาม แตกต่างจากชุด ปฐมพยาบาลทั่วไปอย่างไร?

คุณอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับชุดปฐมพยาบาลทั่วไปและชุดปฐมพยาบาลภาคสนาม   แต่ทั้งสองแบบ นี้แตกต่างกันอย่างไรบ้าง     ? และต่อไปนี้คือข้อแตกต่างระหว่างชุดปฐมพยาบาลส่วนบุคคลสำหรับ บาดแผลจากกระสุนปืนกับชุดปฐมพยาบาลทั่วไป 

ชุดปฐมพยาบาลทั่วไป: การดูแลเบื้องต้นสำหรับอาการบาดเจ็บ  เล็กน้อย

ชุดปฐมพยาบาลทั่วไปถูกออกแบบมาเพื่อดูแลอาการบาดเจ็บเล็กน้อย      ยกตัวอย่างเช่น บาดแผล จากของมีคม   แผลถลอก และแผลไหม้ระดับแรก โดยทั่วไปแล้วจะประกอบไปด้วย:

• พลาสเตอร์ปิดแผล

• แผ่นเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อ

• ผ้าพันแผลขนาดเล็ก

• แหนบสำหรับดึงเศษไม้หรือสิ่งแปลกปลอมออกจากผิวหนัง

• และอาจจะมีแผ่นประคบเย็นหรือยาแก้ปวดมาให้ด้วย

•  ผ้าห่มฉุกเฉินให้ความอบอุ่น

• ผ้าก๊อซและผ้าพันแผล

ชุดปฐมพยาบาลเหล่านี้เหมาะสำหรับอาการบาดเจ็บที่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต   โดยได้รับการ ออกแบบมาเพื่อดูแลบาดแผลเล็กน้อยและให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น    เหมาะสำหรับการพกพาไป ด้วยเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันหรือใช้งานกลางแจ้ง    แต่ชุดปฐมพยาบาลทั่วไปจะไม่สามารถช่วยเหลือ ผู้บาดเจ็บได้มากนักในกรณีที่ถูกยิง     โดยถ้าหากมีภาวะเสียเลือดปริมาณมากหรือปอดแฟบ คุณสมบัติของผ้าพันแผลทั่วไปไม่สามารถช่วยชีวิตได้ 

ชุดปฐมพยาบาลส่วนบุคคลสำหรับบาดแผลจากกระสุนปืน:  ออกแบบมาเพื่อรับมือกับการบาดเจ็บที่เป็นอันตรายต่อชีวิต

ชุดปฐมพยาบาลภาคสนามสำหรับบาดแผลจากกระสุนปืนถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับ   บาดแผลที่เกิดขึ้นจากกระสุนปืน   บาดแผลถูกแทง หรืออาการบาดเจ็บรุนแรงอื่นๆ โดยเน้นการห้าม เลือดอย่างรวดเร็วและช่วยให้ผู้บาดเจ็บมีชีวิตรอดจนกว่าจะได้รับการรักษาทางจากบุคลากร   ทางการแพทย์ 

อุปกรณ์ที่พบได้ในชุดปฐมพยาบาลภาคสนามสำหรับบาดแผลจากกระสุนปืน      

• สายรัดห้ามเลือด    (Tourniquet): เป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับหยุดยั้งภาวะเลือดออกที่เป็น อันตรายถึงแก่ชีวิต       โดยเฉพาะที่เกิดขึ้นบริเวณแขนและขา

• แผ่นปิดบาดแผลบริเวณหน้าอก     (Chest Seal): เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดในชุด ปฐมพยาบาลภาคสนามสำหรับบาดแผลจากกระสุนปืน       โดยจะช่วยป้องกันไม่ให้อากาศเข้า สู่บาดแผลที่หน้าอกและลดความเสี่ยงต่อภาวะลมอัดดันในช่องเยื่อหุ้มปอดหรือภาวะลมรั่ว    ในช่องเยื่อหุ้มปอดอย่างรุนแรง    (Tension Pneumothorax) โดยเป็นอุปกรณ์ที่สามารถช่วย ชีวิตในกรณีที่มีบาดแผลเปิดที่หน้าอก       ซึ่งอุปกรณ์นี้จะไม่มีอยู่ในชุดปฐมพยาบาลทั่วไป 

• ผ้าก๊อซอัดแน่น     (Compressed Gauze): ใช้สำหรับอุดบาดแผลลึกและควบคุมเลือดออกใน กรณีที่ผ้าพันแผลทั่วไปเอาไม่อยู่        ผ้าก๊อซชนิดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับอาการบาดเจ็บ รุนแรงและภาวะเสียเลือดมาก    เช่น บาดแผลจากกระสุนปืน

• ผ้าพันแผลสำหรับบาดแผลฉกรรจ์      (Trauma Bandage): ผ้าพันแผลชนิดพิเศษนี้ สามารถ ช่วยกดทับบาดแผลเพื่อควบคุมการสูญเสียเลือด        โดยจะแตกต่างจากพลาสเตอร์ปิดแผล ขนาดเล็กที่พบในชุดปฐมพยาบาลทั่วไป 

• กรรไกรกู้ชีพ   (Trauma Shears): เป็นกรรไกรที่แข็งแรงและทนทาน สามารถตัดเสื้อผ้าและ อุปกรณ์ยุทธวิธีเพื่อให้เข้าถึงบาดแผลได้      ถือเป็นอุปกรณ์จำเป็นสำหรับการเข้าถึงบาดแผล อย่างรวดเร็ว   มีขนาดอยู่ที่ 18.5 ซม.

• ท่อช่วยเปิดทางเดินหายใจทางจมูก      (Nasopharyngeal Airway - NPA): นำมาใช้เพื่อ รักษาทางเดินหายใจให้เปิดโล่งขึ้น        ในกรณีที่ผู้บาดเจ็บหมดสติหรือมีทางเดินหายใจอุดตัน ซึ่งแม้ว่าอาจจะไม่ได้นำมาใช้งานบ่อยนัก     แต่ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยเฉพาะในกรณีบาดแผลจากกระสุนปืนที่อาจส่งผลต่อการหายใจได้ 

• ผ้าห่มฉุกเฉิน        (Emergency Blanket): ผ้าห่มฉุกเฉินออกแบบมาเพื่อช่วยรักษาความอบอุ่น ของร่างกายของผู้บาดเจ็บและป้องกันภาวะช็อกจากอุณหภูมิร่างกายที่ลดลง 

ชุดปฐมพยาบาลภาคสนามสำหรับบาดแผลจากกระสุนปืนทางการ  ทหาร: ออกแบบมาเพื่อใช้ในสนามรบ 

ชุดปฐมพยาบาลภาคสนามทางการทหารได้รับการออกแบบมาให้รองรับในสถานการณ์สู้รบ   ซึ่งมัก เกิดขึ้นในพื้นที่ที่ความช่วยเหลืออาจอยู่ห่างไกล       และสภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยความอันตรายและ ยากลำบาก

โดยทั่วไปแล้ว     จะประกอบไปด้วยสายรัดห้ามเลือดเพิ่มเติม, ที่ครอบตาป้องกันอาการบาดเจ็บ, ผ้า พันแผลสำหรับแผลไฟไหม้     , เข็มลดความดันในช่องอก (Decompression Needle) และสารห้าม เลือด    

ชุดปฐมพยาบาลทางทหารถูกออกแบบมาให้มีความทนทานและเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาวะ        แวดล้อมที่ยากลำบากและอันตรายที่สุด   โดยชุดปฐมพยาบาลเหล่านี้ นอกจากจะมีอุปกรณ์ครบ ครันแล้ว  แต่ยังต้องถูกสร้างมาเพื่อนำไปใช้งานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพในสถานการณ์ที่ เป็นอันตรายถึงชีวิต 

แล้วความแตกต่างที่สำคัญคืออะไร?

ชุดปฐมพยาบาลภาคสนามสำหรับบาดแผลจากกระสุนปืนถูกออกแบบมา       เพื่อรับมือกับอาการบาด เจ็บที่เป็นอันตรายถึงชีวิต    ในขณะที่ชุดปฐมพยาบาลทั่วไปเหมาะสำหรับบาดแผลเล็กน้อย เช่น รอย ถลอกหรือแผลฟกช้ำ        และราคาของชุดปฐมพยาบาลทั้งสองแบบนี้ ก็ยังมีความแตกต่างกันอย่าง ชัดเจนอีกด้วย 

หากคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูง    ไม่ว่าจะเป็นในทางการทหาร, เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎ หมายอื่นๆ  , หรือผู้ที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งที่มีความเสี่ยง เช่น การล่าสัตว์ การมีชุดปฐมพยาบาลภาค สนามเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก       เพราะคุณจะได้มีเครื่องมือที่เหมาะสมเอาไว้สำหรับห้ามเลือดออกที่มี ปริมาณเลือดมาก  , ปิดบาดแผลที่หน้าอก, และช่วยพยุงอาการผู้บาดเจ็บจนกว่าความช่วยเหลือจะ มาถึง      แต่หากคุณต้องการเพียงดูแลบาดแผลเล็กน้อยภายในบ้าน ชุดปฐมพยาบาลทั่วไปก็ถือว่า เพียงพอแล้ว